Main Menu

Recent posts

#1

Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงโฉม เพิ่มความหรูหรา สะดวกสบาย และความปลอดภัยถึงขีดสุด ด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อน พิถีพิถันทุกขั้นตอน ทำให้รู้สึกมั่นใจ ปลอดภัย ในทุกๆ การขับขี่ ทุกเส้นทางที่ไป และยังคงความเป็นสปอร์ตไว้อย่างเต็มตัว ให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องสนุก ไม่น่าเบื่อ

ขุมกำลังของ Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury
Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury เป็นรุ่นเริ่มต้น รายละเอียดของเครื่องมีดังนี้

เครื่องยนต์
•   รุ่นเครื่องยนต์ A25A-FXS แบบเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S VVT-iE
•   ปริมาตรความจุของกระบอกสูบอยู่ที่ 2,487 ซีซี
•   กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 131 แรงม้า ที่/ 5,750 รอบต่อนาที
•   แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์ 221/ 3,600-5,200 นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที
•   ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
•   อัตราประหยัดน้ำมัน 23.8 กิโลเมตร/ลิตร
•   แบตเตอรี่ไฮบริดแบบ นิกเกิลเมตัลไฮดราย
•   ความจุไฟฟ้า 6.5 แอมแปร์-ขั่วโมง
•   กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 155 กิโลวัตต์

ดีไซน์ภายนอก
Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury ใช้เป็นไฟหน้าและไฟท้าย LED แบบ HV ให้ความสว่างที่มากกว่าแบบปรกติ และไฟตัดหมอก ไฟเบรกดวงที่สาม และไฟเลี้ยวกระจก เป็นแบบ LED ทั้งหมด กระจกมองข้ามแบบปรับไฟฟ้า ที่ช่วยลดการเกาะของน้ำ มีระบบการบันทึกแบบ Reverse Link และ Auto Retractable กระจังด้านหน้าและฝาท้าย เป็นแบบบโครเมียม ที่เพิ่มความหรูหราอีกระดับ

ดีไซน์ภายใน
ในตัว Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury ได้เป็นเบาะหนังแบบ Smooth Leather และวัสดุสังเคราะห์ เบาะนั่งคู่หน้าปรับได้ทั้งหมด 8 ทิศทาง มีปุ่มปรับดันหลังแบบไฟฟ้า เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนแบบไฟฟ้าได้ ระบบปรับอากาศแบบ อัตโนมัติ 3 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย, ขวา, หลัง)

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
มีระบบการเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบสตาร์ตแบบอัจฉริยะและเปิดประตูอัจฉริยะ มีระบบการควบคุมเกียร์ที่พวงมาลัยได้ ระบบที่ช่วยในการบันทึกตำแหน่งคนขับและกระจกมองด้านข้าง พวงมาลัยแบบปรับตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า ที่ปันน้ำฝนควบคุมการปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ และตั้งเวลาหน่วงได้ หน้าจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว สัญญาณเตือนระยะด้านท้าย 4 มุม และรองรับการใช้ไฟแบบไร้สายได้
ระบบความปลอดภัยของ Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury

รุ่น มาพร้อม ระบบเบรกแบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกแบบ EBD ตัวช่วยควบคุมการทรงตัว ระบบการช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนที่ลาดชัน เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า 2 จุด และด้านหลัง 3 จุด ถึงลมนิรภัยระบบ SRS คู่หน้า ด้านข้าง ม่านคนขับ หัวเขาคนขับ และเบานั่งด้านหลัง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน

ราคา
Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1,809,000 บาท


หากต้องการความหรูหรา ความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการเดินทาง Toyota CAMRY 2023 2.5 HEV Premium Luxury เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และในปี นี้ ก็ทำออกมาได้ถูกอกถูกใจผู้ที่ตั้งตารอคอยรุ่นใหม่จริงๆ เป็นรถที่คุ้มค่าคุ้มราคาอีกหนึ่งรุ่น ที่ไม่อยากให้คุณพลาด
#2

วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักกับรถกระบะที่สุดจัดของจริงที่สุดในปี 2023 อย่างรุ่น FORD RANGER RAPTOR กระบะออฟโรดที่พร้อมตะลุยไปทุกสภาพพื้นผิวอย่างมั่นใจ ดีไซน์ที่เฉียบคมสุดดุดันเหมาะกับคนลุยๆที่พร้อมออกผจญภัยอย่างไม่ยำเกรงต่อทุกเส้นทางที่เจอ ซึ่งในปี 2023 นี้ รถรุ่นนี้ได้ออกรุ่นใหม่ที่เป็นเครื่องดีเซล ที่มั่นใจได้เลยว่าเร็ว แรง เข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม

- ดีไซน์ภายในของ FORD RANGER RAPTOR มีอะไรบ้าง

มีหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสี ความใหญ่ขนาด 12.4 นิ้ว, ขณะที่หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Toch ขนาด 12 นิ้ว มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC® 4A ใหม่ล่าสุดของทางค่าย รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ได้อย่างง่ายดาย และระบบเสียงสุดแน่นอลังการ, เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และ เบรคมือไฟฟ้า, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติได้ทันใจ, มีที่ชาร์จไร้สายทรงประสิทธิภาพ, กระจกมองหลังที่สามารถปรับลด-เพิ่มแสงได้แบบอัตโนมัติ มาพร้อมกับช่องต่อ USB ทันสมัย, ช่องต่อไฟของรถเป็นแบบ 12 V 1 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V (400W) อีกช่อง, ระบบปรับอากาศในรถที่โดนใจ, มีระบบให้เลือกโหมดขับขี่สูงถึง 7 รูปแบบด้วยกัน เป็นต้น

- อุปกรณ์ความปลอดภัยของ FORD RANGER RAPTOR มีอะไรบ้าง
มีระบบตัวช่วยโทรฉุกเฉินเมื่อมีเหตุ, จัดเต็มด้วยถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และ ถุงลมบริเวณหัวเข่า, สัญญาณเตือนการจอดที่ดีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง, ระบบป้องกันล้อล็อกแบบ ABS, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อม Electric Brake Booster, ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชันแบบ HLA, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขาแบบ HDC และสัญญาณกันขโมยด้วยมาตรฐานแบบ Vol umetric

- เครื่องยนต์ของ FORD RANGER RAPTOR
สำหรับรายละเอียดของเครื่องยนต์ใหม่ เครื่องดีเซล มีดังนี้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า หรือ 155 กิโลวัตต์ ต่อ 3,750 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ให้ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ทั้งยังรองรับการใช้น้ำมันได้หลากหลาย B7, B10, B2,  มีระบบเฟืองท้ายหลัง แบบ Locking Differential ช่วยให้เครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ และ ระบบกันสะเทือนในโช้คอัพ FOX มาตรฐานแบบ Internal Bypass 2.5 นิ้ว

โดยที่ FORD RANGER RAPTOR มีให้เลือกกันอยู่ 4 สีด้วยกันคือ
สีขาว Arctic White, สีเทา Conquer Grey, สีดำ Absolute Black และ สีเงิน Code Orange

ส่วนราคานั้นมี 2 ราคา คือรุ่นเบนซิลกับดีเซล

รุ่นดีเซล DBL 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคาอยู่ที่ 1,769,000 บาท
รุ่นเบนซิล DBL Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคาอยู่ที่ 1,919,000 บาท
#3

ชื่อของบางแสน คนไทยไม่ว่าใครก็จะต้องรู้จักแม้ว่าอาจจะไม่เคยมาก็ตาม เพราะที่นี่เป็นที่ที่มีทะเลและชายหาดที่สวยที่สุดอันดับต้นๆของประเทศ แล้วไม่ใช่ว่าจะมีเพียงแค่นี้เท่านั้น บางแสนยังให้อะไรที่มากกว่านั้น ทั้งการหาของกินอร่อยที่มีเยอะแยะจนเลือกไม่ถูก สถานที่ซื้อของฝากสุดโดนใจที่หลายคนประทับใจ บทความนี้จะมาอัพเดทในปี 2023 กัน ว่ามีที่ตรงไหนของบางแสนบ้างที่คุ้มค่าแน่นอนหากได้มาเยือน

บางแสน 2023 จุดที่ต้องเช็คอิน

1.   หาดบางแสน
เมื่อมาบางแสนก็ย่อมจะต้องไม่พลาดในการมาเที่ยวหาดบางแสน ที่นี่เดินทางมาอย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะขับรถมาเองหรือนั่งรถประจำทางมา หาดบางแสนมีลมเย็นสบายตลอดทั้งวัน ทั้งมีกิจกรรมที่สุดเหวี่ยงที่ขนกันมาแบบจัดเต็ม เช่น บานาน่าโบ้ท, ขี่เรือโดนัท หรือว่า ขี่เจ็ตสกีสุดมันส์ มาครบถ้วน แล้วที่นี่หาดทรายยังสวยสะอาดตา นุ่มนวลที่การนั่งนอนอาบแดดชมความสวยงามของทะเลเป็นอะไรที่เพลิดเพลินจริงๆ

2.   Nomisuke Ramen
ไม่นานมานี้มีคาเฟ่เปิดมาริมทะเล เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งออกแบบในสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า Nomisuke หรือชื่อไทยว่าโนะมิสุเกะ โดยร้านตั้งอยู่ริมหาดวอนนภา ซึ่งต้องบอกว่าร้านดีต่อใจน่ารักมากๆ ถ่ายรูปสวยๆได้ทุกมุม ภายในที่แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความเป็นญี่ปุ่นมากมาย อาหารอร่อย ถ่ายรูปชิคๆแนวๆ เปรียบเหมือนได้ยากประเทศญี่ปุ่นมาไว้ที่บางแสนเลยทีเดียว

3.   ถนนคนเดินบางแสน
หลังจากเที่ยวกันมาอย่างหนำใจแล้ว การมาเดินพักผ่อนหาของถูกใจติดกระเป๋ากลับบ้าน หรือหาของกินอร่อยๆราคาย่อมเยา ต้องไม่พลาดในการมาเดินสบายๆที่ถนนคนเดินบางแสน ภายในตลาดมีพ่อค้าแม่ค้านับไม่ถ้วน มีขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดูดเงินออกจากกระเป๋าของคุณได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน

4.   จุดชุมวิวบางแสน เขาสามมุก
ที่ต่อมาคือที่นี่ จุดชุมวิวบางแสน เขาสามมุก เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของบางแสน เพราะสามารถมองเห็นวิวที่กว้างไกลได้อย่างสุดสายตาโดยไม่มีอะไรมาขวางเลย ทั้งยังมีลมโชยเข้ามาปะทะอยู่ตลอดทั้งวัน นอกจากจะเป็นที่นั่งชมวิวแล้ว ยังเป็นจุดนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างดี โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกจะสวยงามมากๆที่นี่

5.   สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
จะเรียกว่าเป็นอวาเรียมขนาดย่อมเลยก็ว่าได้ แม้จะมีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่คับคั่งไปด้วยสัตว์น้ำหลายชนิดที่จะต้องตื่นตาตื่นใจไม่น้อยแน่นอน ทั้งยังมีอุโมงค์ปลาใสสะอาดที่มีปลาแหวกว่ายนับไม่ถ้วน เป็นสถานที่ที่มาเที่ยวได้ทุกวัย ที่ไม่ว่าใครต่างก็ถูกใจกันทั้งนั้น
#4

ทันทีที่หน้าร้อนมาถึง ที่เที่ยวที่คนเลือกไปเที่ยวมากที่สุด ก็คือทะเล หรือว่าเกาะ และเกาะที่เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยว ก็คือ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งเกาะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลือกมาเที่ยวมากที่สุด เพราะว่าความงามของธรรมชาติ ที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่ และเพื่อให้ท่านได้เที่ยวอย่างสนุกเต็มที่ เราจะพาทุกท่านมาดูรายละเอียดของเกาะสมุยก่อน จะได้รู้ว่าต้องเตรียมการอย่างไร ควรไปเที่ยวตรงจุดไหนบ้าง จะได้ไม่งง

กิจกรรมที่น่าสนใจ

ที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส และกิจกรรมยอดฮิต ของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ก็คือ
•   ชมวิวรอบเกาะ บนเกาะสมุยมีพื้นที่ขนาดใหญ่ การเดินเที่ยวรอบเกาะทำได้ยากมาก ดังนั้นการเช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือว่ารถยนต์ เพื่อเที่ยวรอบๆ เกาะ ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก เพราะคุณจะได้เก็บภาพได้ทั่วเกาะ ช่วยประหยัดเวลาได้ด้วย เลือกเช่าได้ตามความสะดวก
•   นั่งชิวที่บาร์ บนเกาะสมุยก็มีบาร์ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเล่นตอนกลางคืน ท่านจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเย็นๆ ชมดาว ชมวิวตอนกลางคืน และมีเสียงเพลงเบาๆ บอกเลยว่าโรแมนติกมากๆ นักท่องเที่ยวหลายท่าน เลือกที่จะมาเที่ยวในช่วงกลางคืนแบบนี้เช่นกัน
•   เดินชมวิว ถ้าคุณอยากจะเก็บภาพสวยๆ อยากจะชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่หาดหน้าทอน เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวเยอะที่สุด และจุดนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางไปยังจุดต่างๆ อีกด้วย
•   ดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่หาดบ่อผุด คุณจะได้ชมวิถีการใช้ชีวิตของชาวเล คุณจะได้เห็นการใช้ชีวิตของคนเหล่านี้ ว่าเขาทำอะไรบ้าง เกี่ยวกับการประมง และได้ดูความเป็นอยู่ ได้กินได้เที่ยว ที่บริเวณหาดนี้เยอะเลยแหละ
•   จุดชมพระอาทิตย์ตก อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ควรพคลาด ก็คือที่หาดตลิ่งงาม เป็นจุดที่จะเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด ยิ่งประกอบกับบรรยากาศที่เงียบสงบด้วย คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขไปพร้อมกัน
การเดินทาง
ท่านสามารถเดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้หลายทาง ทั้งรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน แต่หลังจากที่มาถึง ท่าเรือ ต้องนั่งเรือต่อไปอีก มีผู้ให้บริการหลายเจ้าคอยให้บริการเรือ ราคาก็อาจจะแตกต่างกันบ้าง

ค่าบริการในการเข้าชม ฟรี

ที่พักและอาหาร
บนเกาะมีที่พักหลายประเภท ทั้งบังกะโล รีสอร์ท ห้องพักทั่วไป ส่วนร้านอาหารหรือร้านเครื่องดื่ม ก็มีหลายร้านให้ท่านได้เลือกนั่ง มีอาหารให้เลือกทั้งอาหารไทยและต่างประเทศ รับรองว่าถูกปากทุกท่านแน่นอน เป็นเกาะที่สะดวกสบายที่สุดอีกเกาะหนึ่ง เพราะมีบริการครบครัน

พิกัดของ เกาะสมุย
ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอ่าวไทย และเป็นอำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
#5

ประวัติ เดมาราย เกรย์ ปีกทีมชาติจาไมก้าของ เอฟเวอร์ตัน
ทีมชาติ : จาไมก้า 5 นัด – 2 ประตู (2023-?)
สโมสรปัจจุบัน : เอฟเวอร์ตั้น  75 นัด – 12 ประตู (2021-?)

เดมาราย เกรย์ (Demarai Gray) เกิดวันที่ 28 มิถุนายน 1996 ที่ประเทศอังกฤษ เริ่มเล่นฟุตบอลระดับเยาวชน กับสโมสร Cadbury Athletic จากนั้นในปี 2006 ย้ายไปอยู่กับ เบอร์มิงแฮม แล้วได้เริ่มอาชีพในฤดูกาล 2013/14 โดยได้ลงสนาม 9 นัด ยิง 0 ประตู แล้วฤดูกาลต่อมา ได้ลงเล่นมากถึง 43 นัดรวมทุกรายการ ยิง 6 ประตู แล้วทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2015/16 นั่นทำให้ เลสเตอร์ ซื้อตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลเดียวกัน

หลังขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ เลสเตอร์ ซิตี้  เกรย์ไม่ใช่ตัวหลักของทีม ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 12 นัด (ตัวจริง 1 สำรอง 11) ซึ่งจบฤดูกาลนั้น จิ้งจอกคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ด้วยแต้มที่เหนือกว่า อาร์เซนอล 10 คะแนน จากนั้นในฤดูกาล 2016/17 เกรย์ขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ลงเล่น 41 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู แต่ไม่อาจพาทีมป้องกันแชมป์ได้

ฤดูกาล 2017/18 เดมาราย เกรย์ ยังได้รับโอกาสจาก เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่เรื่อยๆ แต่อยู่ในฐานะตัวเลือกรองถัดจาก ริยาด มาห์เรซ กับ มาร์ค อัลไบรท์ตั้น แต่ก็ได้ลงสนามมากถึง 44 นัดรวมทุกรายการ ยิง 4 ประตู ต่อมาในฤดูกาล 2018/19 เกรย์ได้ยืนเป็นแนวรุกตัวหลัก ร่วมกับ เจมส์ แมดดิสัน และ เจมี่ วาร์ดี้ ลงเล่น 39 นัดยิง 4 ประตู

ฤดูกาล 2019/20 เดมาราย เกรย์ ตกเป็นตัวเลือกรองในตำแหน่งตัวรุก ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีก 21 นัด (ตัวจริง 3 สำรอง 18) ยิงได้ 2 ประตู แล้วถูกส่งต่อให้ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาล 2020/21 โดยเซ็นสัญญาระยะสั้นแค่ปีครึ่งเท่านั้น ซึ่งการไปอยู่กับห้างขายยานั้น เกรย์เป็นตัวเลือกถัดจาก เลออน ไบลีย์ และ มูสซ่า ดิยาบี้ ได้ลงเล่นบุนเดสลีก้า 10 นัด (ตัวจริง 5 สำรอง 5) ยิง 1 ประตู

ฤดูกาล 2021/22 เดมาราย เกรย์ ถูกขายให้ เอฟเวอร์ตั้น ด้วยค่าตัว 1.7 ล้านปอนด์ แล้วกลายเป็นตัวหลักของทีมร่วมกับ ริชาร์ลิสัน และ อเล็กซ์ อิโวบี้ ลงเล่น 39 นัดรวมทุกรายการ ยิง 6 ประตู โดยแบ่งเป็นการยิงในพรีเมียร์ลีก 5 ประตู มากที่สุดนับตั้งแต่ค้าแข้งมา

ฤดูกาล 2022/23 เดมาราย เกรย์ ยืนเป็นแนวรุกร่วมกับ โดเมนิค คัลเวิร์ต เลวิน และ ดไวท์ แม็คนีล ลงเล่น 36 นัดรวมทุกรายการยิง 6 ประตู หนึ่งในนั้นคือการยิง 1 ประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เสมอ 1-1) และหนึ่งประตูในเกมเสมอ ฟอเรสต์ (2-2) มีส่วนช่วยให้ เอฟเวอร์ตั้น รอดตกชั้น

ในส่วนของการรับใช้ชาติ เดมาราย เกรย์ เปิดตัวกับ ทีมชาติจาไมก้า ในฟุตบอลคอนคาเคฟ โกลด์คัพ 2023 ยิง 2 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ พาทีมผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะแพ้ เม็กซิโก 0-3 จอดป้ายแค่รอบนั้น
#6

อลิสซง เบคเกอร์ คือ สุดยอดของผู้รักษาประตู สัญชาติ บราซิล ที่ตอนนี้กำลังค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้วก็ทำผลงานได้ไม่ยอดเยี่ยมสุดๆ จนตอนนี้ชื่อเสียงและความไว้ใจของเขา ได้รับการยอมรับจากแฟนบอลเดอะ ค็อป ทั่วโลกไปแล้ว ว่านี่คือสุดยอดของผู้รักษาประตูอย่างแท้จริง

ชื่อเต็ม อลิสซง รังซิส  เบคเกอร์
วันเกิด 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992 (30 ปี)
สถานที่เกิด โนวูอัมบูร์กู ประเทศบราซิล
ส่วนสูง 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู

เส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลของ อลิสซง เบคเกอร์

เส้นทางการเป็นผู้รักษาประตูของ อลิสซง เริ่มต้นตั้งแต่เขายังไม่เกิด ด้วยครอบครัวของเขา เป็นครอบครัวนักฟุตบอลอย่างแท้จริง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริง แต่เขาก็มีเลือดของการเป็นผู้รักษาประตูอยู่เต็มตัว และเลือดนั้นก็ถูกส่งต่อมายัง อลิสซง ทำให้ตัวของเขา ชื่นชอบการเป็นผู้รักษาประตูมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ตัวของ อลิสซง ก็ได้เข้าร่วมทีมสโมสรในบ้านเกิด นั่นก็คือ อินเตอร์นาซิอองนาล

สำหรับเส้นทางของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ อลิสซง เริ่มต้นเมื่อปี 2013 เขาก็ถูกส่งให้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทีม ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 10 ปี ถึงจะมีวันนี้ หลังจากที่มีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริง เขาก็โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนเพื่อนและพี่ชายถึงกับเอ่ยปากชม ในฝีมือของเขา และเด็กคนนี้ จะกลายเป็นผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตได้อย่างแน่นอน

หลังจากที่ทีมยุโรปได้เห็นผลงานของ อลิสซง แล้ว ต่างก็เข้ามารุมจีบกันอย่างล้นหลาม แล้วก็กลายเป็นทาง โรม่า ที่ได้ตัวไปร่วมทีมด้วย แต่ผลงานของเขาที่นี่ ไม่น่าพอใจเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะว่าต่างบ้านมาไกล ทำให้ต้องนั่งเป็นตัวสำรองอยู่นาน และไม่มีโอกาสได้ลงเล่นเลยแม้แต่นัดเลย จนทำให้เกิดความคิดในการย้ายทีม แต่สุดท้ายเขาก็มีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แล้วก็ไม่ผิดหวัง เขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 22 เกมทุกรายการ ทำให้ชื่อของ อลิสซง โด่งดังมากขึ้นไปอีก

และในปี 2018 อลิสซง ก็ถูก ลิเวอร์พูล ซื้อตัวเข้ามาร่วมทีม ด้วยเงินค่าตัวสูงถึง 72 ล้านยูโร เป็นค่าตัวที่สูงเป็นสถิติโลกเลย จากนั้นเขาก็รักษามาตรฐานการเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ได้ตลอดมา จนทำให้แฟนบอลหงส์แดง รักเขาสุดหัวใจ ว่ามีความทุ่มเทให้กับสโมสรอย่างแท้จริง ด้วยการพาทีมคว้ามแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ

รางวัลส่วนตัว

•   The Best FIFA Goalkeeper: 2019
•   FIFA FIFPro World XI: 2019, 2020
•   UEFA Champions League Squad of the Season: 2017–18, 2018–19
•   UEFA Champions League Goalkeeper of the Season: 2018–19
•   Serie A Team of the Year: 2017–18
•   Premier League Golden Glove: 2018–19, 2021–22
•   Copa América Golden Glove: 2019
•   Copa América Team of the Tournament: 2019
•   IFFHS World's Best Goalkeeper: 2019
•   IFFHS Men's World Team: 2019
#7

มาร์ติน โอเดการ์ด มิดฟิลด์ทีมชาตินอร์เวย์ของ อาร์เซน่อล
ทีมชาติ : นอร์เวย์ 51 นัด – 2 ประตู (2014-?)
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล 108 นัด – 25 ประตู (2021-?)


มาร์ติน โอเดการ์ด เกิดวันที่ 17 ธันวาคม 1998 ที่ประเทศนอร์เวย์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับ อคาเดมี่ของสโมสร Drammen Strong ช่วงปี 2005-2009 จากนั้นย้ายสู่ อคาเดมี่ของสโมสร Strømsgodset ช่วงปี 2009 แล้วมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ในปี 2014 เล่นกับทีมได้แค่ 25 นัด ฟอร์มไปเข้าตา เรอัล มาดริด เลยถูกซื้อตัวไปร่วมทีม แล้วส่งไปเล่นกับ Real Madrid Castilla (ทีมสำรองของ เรอัล มาดริด) ระหว่างปี 2014-2017 ได้มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ตัวหลัก

ฤดูกาล 2016/17 กับ 2017/18 มาร์ติน โอเดการ์ด ถูกส่งให้ ฮีเรนวีน (ฮอลแลนด์) ยืมตัวไปใช้งาน ได้ลงเล่นรวมกัน 43 นัดรวมทุกรายการ ยิง 3 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2018/19 ถูกส่งไปเก็บเลเวลกับ วิเทสส์ (ฮอลแลนด์) ลงเล่น 39 นัดรวมทุกรายการ ยิง 11 ประตู แต่ยังไม่พร้อมในการเป็นตัวจริงของ เรอัล มาดริด

ฤดูกาล 2019/20 เรอัล โซเซียดัด ยืมตัว มาร์ติน โอเดการ์ด ไปใช้งาน 1 ปี แล้วโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่น 39 นัดรวมทุกรายการ ยิง 7 ประตู จ่าย 9 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับ 6 ในลาลีก้า พ่วงด้วยแชมป์ โคปา เดล เรย์ 2019/20 มีส่วนร่วม 6 จาก 9 นัด ยิง 3 ประตู จ่าย 3 แอสซิสต์ หนึ่งในประตูที่ยิงได้ คือการยิงใส่ต้นสังกัดจริง เรอัล มาดริด (ชนะ 4-3) ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ไม่ได้ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 1-0

ฤดูกาล 2020/21 มาร์ติน โอเดการ์ด ถูก เรอัล มาดริด ใช้งาน 9 นัด จากนั้นส่งไปเก็บเลเวลกับ อาร์เซน่อล ในช่วงกลางฤดูกาล ลงเล่น 20 นัดรวมทุกรายการ ยิง 2 ประตู จ่าย 2 แอสซิสต์ แล้วถูกเซ็นสัญญาถาวรหลังจบฤดูกาลนั้น ไม่ผูกพันธ์กับ เรอัล มาดริด อีกต่อไป

ฤดูกาล 2021/22 มาร์ติน โอเดการ์ด ยึดตัวหลักของ อาร์เซน่อล ได้ในทันที โดยยืนเป็นสามมิดฟิลด์ตัวหลักร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ และ กรานิต ชาก้า ระหว่างวันที่ 2-11 ธันวาคม (พรีเมียร์ลีกนัดที่ 14-16) โอเดการ์ดยิงประตู 3 นัดติดต่อกัน ในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แพ้ 2-3) เอฟเวอร์ตั้น (แพ้ 1-2) และ เซาแธมป์ตั้น (ชนะ 3-0) จบฤดูกาลนั้นลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ ยิง 7 ประตู จ่าย 5 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2022/23 มาร์ติน โอเดการ์ด ถูกแต่งตั้งให้เป็น กัปตันทีมปืนใหญ่ เปิดหัวด้วยการยิง 2 ประตู ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 3 ที่เอาชนะ บอร์นมัธ 3-0 แล้วยิงอีก 1 ประตูในเกมนัดที่ 4 ที่เอาชนะ ฟูแล่ม 2-1 จากนั้นได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องพา อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงไปจนถึงนัดที่ 33 แต่สุดท้ายได้แค่รองแชมป์ ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 คะแนน

ฤดูกาล 2023/24 มาร์ติน โอเดการ์ด ยังอยู่กับ อาร์เซน่อล ลงเล่น 3 นัด ยิง 1 ประตู
#8

กีฬา คือสิ่งที่อยู่กับโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน มีการละเล่นกันมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณกาล ก่อนจะวิวัฒนาการกันมาเรื่อยๆจนถึงยุคปัจจุบัน ที่บางกีฬาทำดีขึ้นสนุกขึ้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนบางกีฬาค่อยๆหายาบสูญไปตามกาลเวลา จนแทบจะไม่มีใครรู้จักว่าในโลกใบนี้เคยมีกีฬาชนิดนี้อยู่ด้วย และหากจะพูดถึงกีฬาที่ไม่รู้จัก บนโลกนี้มีอีกเยอะมากๆ เพราะแต่ละประเทศแต่ละสถานที่ต่างมีกีฬาท้องถิ่นประจำตัวของตัวเองอยู่เต็มไปหมด ส่วนบทความนี้จะมาพูดถึงความนิยมของทั้ง 10 ชนิดกีฬา ว่าในปี 2023 นี้ กีฬาอะไรบ้างที่คนทั่วโลกนิยมกันมากที่สุด

กีฬาที่คนทั่วโลกนิยมชมชอบมากที่สุด 10 อันดับในปี 2023

10. เทเบิลเทนนิส
เทเบิลเทนนิส หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า ปิงปอง นี่คือชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นกีฬาที่สนุก ดูง่ายไม่ซับซ้อน แล้วการแข่งขันได้มีจัดขึ้นตลอดทั้งปี

9. รักบี้
ในประเทศไทยอาจจะไม่นิยมมากนัก แต่หากนับทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรปกับอเมริกา นี่คือกีฬาที่คนชื่นชอบยอดนิยมกันไม่น้อยกันเลย

8. บาสเก็ตบอล
นี่คือหนึ่งในกีฬาที่คนชอบกันมากที่สุดชนิดหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย และค่าตัวของนักกีฬาทั้งการย้ายทีมกับเรื่องค่าจ้างสูงติดอันดับโลกกันอยู่ตลอด รวมถึงมีดาวดังซูปเปอร์สตาร์มากมาย

7. ฮอกกี้
ได้รับความนิยมอย่างสูงในหลายๆประเทศ มีการจัดแข่งมากมาย ส่วนในไทยไม่ค่อยถูกพูดถึง เพราะมีสถานที่เล่นน้อยเอามากๆ

6. เทนนิส
ในบ้านเราเทนนิสได้รับความนิยมเยอะทีเดียว ที่ผ่านมาเคยมีนักกีฬาเก่งๆที่ก้าวไปสู่ระดับโลกหลายคน ส่วนทั่วโลกนี่คือกีฬาที่คนสนใจเยอะทีเดียว

5. เบสบอล
ประเทศญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ นี่คือกีฬาระดับชาติก็ว่าได้ ส่วนทั่วโลกนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม อย่างยิ่งกับอเมริกาที่ชื่นชอบกันอย่างมาก เมื่อมีการแข่งขันเมื่อไหร่ คนดูเต็มสบายอยู่ตลอดเวลา

4. กอล์ฟ
อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ยอดนิยมมากๆทั่วโลก ทั้งยังเคยมีคนไทยเรา ก้าวไปถึงอันดับ 1 ของโลกมาแล้ว นี่คือกีฬามหาชนที่นิยมกันอย่างมาก

3. วิ่งแข่ง
กีฬาวิ่ง ได้รับความนิยมอย่างสูง ยิ่งในปัจจุบันผู้คนหันมารักสุขภาพมากขึ้น ยิ่งทำให้ความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเล่นง่ายใครก็เล่นได้ตั้งแต่เด็กจนแก่ จนกลายเป็นกีฬาที่นิยมกันมากที่สุดอย่างหนึ่ง

2. วอลเลย์บอล
วอลเลย์บอล คือกีฬาที่หลายประเทศส่งเสริมกันอย่างจริงจัง มีการแข่งขันระดับสูงอยู่ตลอดทั้งปี ความนิยมไม่ต้องสงสัยกับการอยู่ที่ 2 แบบนี้

1. ฟุตบอล
อันดับ 1 แทบจะไม่มีคู่แข่งกับกีฬายอดนิยมตลอดกาลอย่าง ฟุตบอล เพราะนี่คือกีฬาที่แททบจะเคียงคู่เดินข้างไปกับโลกใบนี้เลยทีเดียว ความนิมยมสูงไม่เคยตก แล้วนับวันจะยิ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆอย่างหาที่สิ้นสุดไม่ได้
#9

กำแพงเมืองจีน คือหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากไปสัมผัสด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะนี่คือสถานที่สุดแสนมหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือก่อสร้างที่ทันสมัยอย่างทุกวันนี้ เพราะมันทั้งใหญ่โตอลังการสุดลูกหูลูกตา เป็นสิ่งก่อสร้างที่ติดอันดับ 7 มหัศจรรย์ของโลกมาอย่างยาวนานโดยไม่ตกอันดับไปไหน แล้วยังเป็นสิ่งเดียวที่จะมองเห็นได้หากว่าอยู่นอกโลกอีกด้วย ทั้งหมดนี้ก็พอจะนึกกันแล้วว่าทำไมที่นี่ถึงถูกยกให้ว่าคือความมหัศจรรย์ของโลก

กำแพงเมืองจีน ได้สร้างขึ้นในช่วงจิ๋นซีฮ่องเต้เลยทีเดียว สาเหตุที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันภัยจากผู้รุกราน โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดในการรบ ทำให้มีการก่อสร้างกำแพงตามแนวเขาเกิดขึ้น แล้วการก่อสร้างกินเวลาหลายปีอย่างมากที่สืบทอดต่อยอดจนมา กระทั่งในปัจุบันกำแพงเมืองจีนมีความยาวถึง 21,196.18 กิโลเมตรเลยทีเดียว !!!

ความใหญ่ความยาวของกำแพงเมืองจีน ได้เชื่อมโยงไปถึง 9 เมืองใหญ่ของประเทศก็คือ มณฑลเหลียวหนิง, มณฑลเทียนจิน, มณฑลเหอเป่ย์, ปักกิ่ง, เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน, มณฑลซานซี, มณฑลส่านซี, ปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย และ มณฑลกานซู ซึ่งได้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตของแต่ละเมืองที่ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากมาย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการของกำแพงเมืองจีน จะต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะไปก็ไปได้ เพราะทางหน่วยงานจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในแต่ละวันอย่างจำกัด เพื่อไม่ให้มีผู้คนมามากเกินไป ในการอนุรักษ์กำแพงไม่ให้รองรับกับจำนวนคนจนได้รับความเสียหายนั่นเอง

ในปัจจุบันที่กำแพงเมืองจีนได้สร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นมา ที่สามารถเดินทางชมความสวยงามของที่นี่ได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ แต่หากใครอยากจะเดินเท้าก็ได้เหมือนกัน เพราะแต่ละสถานที่แต่ละจุดหากเดินเท้าจะเข้าถึงง่ายกว่า แล้วยังใกล้ชิดกับความสุดยอดของกำแพงเมืองจีนได้ดีกว่าด้วย โดยตลอด 2 ข้างทางจะเห็นวิวข้างล่างที่ไกลสุดสายตาได้อย่างน่าประทับใจแน่นอน

ที่นี่นับได้ว่าคือแหล่งท่องเที่ยวสุดแสนมหัศจรรย์แห่งหนึ่งบนโลก ที่นักท่องเที่ยวหลายคนตั้งเป้าว่าจะต้องมาพิชิตความใหญ่ความยาวความสุดยอด ณ กำแพงเมืองจีนให้ได้ ยิ่งหากเดินเท้าได้ครบตั้งแต่ต้นจนจบจะต้องภูมิใจกับตัวเองแน่ๆ และหากได้มาสัมผัสด้วยตัวเองล่ะก็ มั่นใจว่าจะต้องทึ่งต้องอึ้งกับสถานที่แห่งนี้กันอย่างแน่นอน ที่ไม่น่าเชื่อว่าในยุคสมัยนั้นผู้คนช่วยกันสร้างขึ้นมาได้ยังไงกัน
#10

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เกาะกระดาน จ.ตรัง
 
เกาะกระดาน จ.ตรัง สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกหนึ่งที่ของประเทศไทย ที่ติดอันดับ ชายหาดที่ดีที่สุดของโลกในปี 2023 นั่นหมายความว่าหาดบ้านเรา ไม่ได้สวยน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเลย ฉะนั้นคนที่อยากจะเที่ยวหากที่สวยๆ ไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศอีกแล้ว แค่ที่ไทยอย่างเดียว รับรองว่าเที่ยวไม่หมด และที่ เกาะกระดาน ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่คุณไม่ควรพลาดอีกเหมือนกัน วันนี้เราก็เลยอยากจะพาทุกท่านมารู้จักกับเกาะแห่งนี้ เผื่อว่าท่านใดกำลังหาสถานที่เที่ยวอยู่ จะได้วางแผนได้เลย

ที่ เกาะกระดาน นี้ ขึ้นชื่ออย่างยิ่งในเรื่องสถานที่ที่มีความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายที่ขาว  น้ำที่ใสสะอาด จนคุณสามารถมองเห็นปะการังใต้น้ำได้อย่างชัดเจนเลย แล้วยังมีปลานานาชนิด ที่ว่ายมาให้ได้เห็น ให้นักท่องเที่ยวมาดำน้ำ และเก็บภาพกลับบ้านได้อย่างจุใจเลย ที่สำคัญที่เกาะแห่งนี้ ยังโดดเด่นเรื่องของความสงบมากๆ ใครที่อยากจะหลบจากโลกที่วุ่นวาย เพื่อมาพักใจ บอกเลยว่ามาที่นี่ ไม่มีผิดหวัง คุณจะได้เติมพลังให้กับร่างกาย จิตใจ ได้อย่างเต็มเลยแหละ

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ในการเข้ามาเที่ยวที่ เกาะกระดานนี้ คุณสามารถทำกิจกรรมอะไรได้หลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นการลงเล่นน้ำทะเล การว่ายน้ำเล่น ดำน้ำเพื่อดูปะการังใต้น้ำ ดูปลา และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ส่วนคนที่อยากจะพายเรือ ก็สามารถเช่าหรือว่าเอามาเองก็ได้ เช่นเรือคายัก เป็นต้น และที่เห็นจะพลาดไม่ได้ ก็คงจะเป็นการนั่งชมที่ให้คุณนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย ซึ่งสวยงามไม่แพ้ที่ใดบนโลกนี้เลย และหาดที่ทุกท่านไม่ควรพลาด แล้วต้องไปให้ได้เลยก็คือ หาดอ่านเนียง หาดอ่าวไผ่ และหากอ่าวช่องลม ซึ่งมีความสวยงาม นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวเยอะที่สุด สามารถทำได้ทุกกิจกรรมเลย

การเดินทาง
ในการเดินทางมายังเกาะกระดาน สามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน รถไฟ รถประจำทาง หรือจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวก็ได้ แต่หลังจากที่มาถึงแล้ว จะต้องนั่งเรือต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปยังเกาะกระดาน หรือจะไปกับบริษัททัวร์ก็ได้เช่นกัน ค่าบริการไม่เกิน 900 บาท

ค่าบริการในการเข้าชม
ฟรี เปิดให้บริการเที่ยวชมได้ทุกวัน

ที่พักและอาหาร
ที่เกาะกระดาน มีโรงแรมหรูมากมาย รวมถึงบังกะโล รีสอร์ท ที่เหมาะกับคนมาคนเดียว และแบบเป็นคู่ก็มี อาหารการกินก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากทางโรงแรม และร้านอาหารอื่นๆ บนเกาะ รับรองว่าฟินทั้งเรื่องเที่ยวทั้งเรื่องกินเลย

สถานที่ตั้งของเกาะกระดาน
ที่อยู่ ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง